
ในโลกโสมมที่เต็มไปด้วยอันธพาลและคนชั่วกลาดเกลื่อน เป็นที่น่าเหนื่อยหน่ายสำหรับผู้ทำหน้าที่รักษากฎหมายที่ต้องตามล้างตามเช็ดไม่จบไม่สิ้น ผู้คนก็ล้วนเป็นสีเทาๆ ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจ และถ้าตำรวจเทาๆต้องเลือกระหว่างการจับคนเลว และคนที่เลวร้ายกว่า คำตอบคงชัดว่า การจับคนชั่วร้ายกว่า ย่อมเป็นผลงานความดีความชอบเลื่อนขั้นได้เร็วกว่า และถ้าเขาต้องยอมร่วมมือกับอาชญากรหนึ่ง เพื่อเป็นหนทางไปสู้การจับอีกอาชญากรหนึ่ง เขาจะยอมรับมันได้หรือไม่
The Gangster : จางดงซู (รับบทโดย มาดงซอก) เจ้าพ่อมาเฟีย ร่างยักษ์ขาโหด ผู้ไม่เคยออมมือให้ใคร เขาเป็นบอสใหญ่ที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จ เป็นเจ้าของธุรกิจตู้เกมสลอตผิดกฎหมาย ที่เป็นแหล่งพนันมอมเมาสูบเงินของผู้คน เขากินรวบตั้งแต่ตั้งโรงงานผลิตตู้ขาย ควบไปกับการขายแฟรนไชส์ สร้างอิทธิพลเครือข่ายไปหลายท้องที่ภูมิภาค และคุมสมุนหรือแฟรนไชส์ซี่ในเครือข่ายได้อยู่หมัด คือใครหือแตกแถวงอแงได้โดนกินหมัดซัดน่วม มีสิทธิ์ตายโหดไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ยังท้าทายอำนาจกฎหมายอยู่ได้ เพราะการยัดเงินสินบนใต้โต๊ะให้นายตำรวจอย่างสม่ำเสมอ
The Cop : จองแทซอก (รับบทโดย คิมมูยอล) ตำรวจในทีมสืบสวนอาชญากรรม ลุคนักเลง นิสัยเถื่อน ห่าม ตรงไปตรงมา เขาเบื่อหน่ายที่ไม่ได้เลื่อนขั้นสักทีเพราะหาผลงานเจ๋งๆไม่ได้ ใจก็อยากกวาดล้างเหล่าอาชญากรมาเฟียจอมกร่างพวกนี้ให้ราบคาบ แต่กวาดจับทีไรก็มาจบที่การเอาผิดไม่ได้ เพราะติดที่เส้นสายหัวหน้าตำรวจซึ่งรับสินบนไว้เยอะ เขาก็เลยได้แต่ไปคอยหาเรื่องป่วนให้มันรำคาญใจเล่นเป็นครั้งคราว เป็นการระบายความเครียดตัวเองได้ปลดปล่อยออกแรงต่อยตีบ้าง
The Devil : คังคยองโฮ (รับบทโดย คิมซองคยู) ฆาตกรต่อเนื่อง ที่เป็นโรคจิตคลั่งการฆ่าคนโดยไม่มีเหตุผล ไม่เลือกเหยื่อ เขาเตรียมแผนการไว้อย่างดี ขับรถชนท้ายใครก็ได้ในช่วงทัศนวิสัยไม่ดี เพื่อให้เหยื่อเปิดช่องว่างประชิดตัว แล้วกระหน่ำแทงโหดจนตายจมกองเลือด ก่อคดีเลือดเย็นไว้มากมาย แต่ไม่เคยทิ้งร่องรอยหลักฐานใดให้ตำรวจตามสืบได้ว่าเขาเป็นใคร
และเมื่อ จางดงซู เกิดตกเป็นเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องเข้าในคืนหนึ่ง แต่ด้วยฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยง เขาได้รับบาดเจ็บ ส่วนฆาตกรเผ่นหนีไป แต่เขาได้เห็นหน้าฆาตกร!
นั่นจึงเป็นที่มาว่า ถ้าจองแทซอกคิดอยากจะจับตัวฆาตกรต่อเนื่องได้ ก็ต้องญาติดี ยอมใช้ข้อมูลของจางดงซู แต่จางดงซูเองก็ใช่ว่าจะยอมร่วมมือง่ายๆ เพราะเขาย่อมอยากเคลียร์แค้นที่ถูกหยามด้วยตัวเอง เนื่องจากข่าวการถูกทำร้ายที่กระเซ็นกระสายออกไป มีผลต่อเครดิตความน่าเชื่อถือ ธุรกิจของเขาพลอยสะเทือนตามไปด้วย
ในสถานการณ์ของ ‘เจ้าพ่อถูกหยาม’ กับ ‘ตำรวจไร้น้ำยา’ จึงเกิดเป็นแนวคิดพันธมิตรว่า ‘ศัตรูของศัตรู คือมิตรชั่วคราวของเรา’ ทั้งคู่จึงจำยอมร่วมมือกันล่าไอ้ฆาตกรโรคจิต แบบมีข้อต่อรอง ซึ่งต่างฝ่ายต่างเขี้ยวทั้งคู่ จึงคอยคุมเชิงกัน พลิกเกมหักหลังกันไปมา เพราะเป้าหมายในใจต่างต้องการจับวายร้ายให้ได้ด้วยมือตัวเองเท่านั้น ท้ายสุด ใครจะได้ตัวฆาตกรไป และจะลงเอยอย่างไร ต้องไปติดตามกันค่ะ