
ก็อต หนุ่มนักแข่งรถไฟแรงที่ไม่ค่อยจะลงรอยกับพ่อสักเท่าไหร่ เขาพยายามจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่าเขาเจ๋งแค่ไหน จนวันหนึ่งก็อตได้แชมป์แข่งรถทางเรียบ ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าวาร์ปกลับไปในปี 2541 ก่อนที่ตัวเองจะเกิดเพียง 1 ปี ก็อตได้กลับมาเจอกับ เปรม พ่อของตัวเองที่ยังดูหล่อเฟี้ยว หัวหน้าแก๊งเจ้าโลก ทำหน้าที่เก็บค่าเช่าร้านค้า คาราโอเกะ โดยการกลับมาเจอกันครั้งนี้ของเขาทั้งคู่ จาก ‘ลูกพ่อ’ ก็กลายมาเป็น ‘ลูกเพ่’ คนสนิท ที่ดันมาปิ๊งสาวคนเดียวกัน อย่าง ดิว แล้วความสัมพันธ์ทุกอย่างก็ดำเนินไป การย้อนเวลาที่มาพร้อมกับ ‘มิตรภาพ’ เพื่อบอก ลูกเพ่ ว่านี่คือ ลูกพ่อ
ความน่าสนใจที่สุดของหนังแอ็กชั่น-คอมเมดี้ (ที่แอบมีกลิ่นไซไฟนิด ๆ เรื่องนี้) ก็คงหนีไม่พ้นคู่ดูโอ้ สองนักแสดงนำในเรื่องนี้อย่าง โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ประกบเข้าคู่ครั้งแรกกับนักแสดงจากบ้าน GDH อย่าง เต๋อ-ฉันทวิชช์ ชนะเสวี นั่นเอง ร่วมด้วยนางเอกละครมากสีอย่าง แซมมี่ เคาวเวลล์ ที่มารับงานภาพยนตร์เป็นครั้งแรกด้วยอีกต่างหาก
และผู้กำกับอย่าง ใหม่-ภวัต พนังคศิริ เอง ที่ก็มีผลงานการกำกับภาพยนตร์มาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งหนังดราม่าหนัก ๆ อย่าง นาคปรก (2553) หลุดสี่หลุด ตอน คืนจิตหลุด (2554) และ ตีสาม After Shock ตอน ทางด่วน (2561) และข้ามมากำกับละครโทรทัศน์กระแสเปรี้ยงไว้หลายเรื่อง เช่น ลิขิตรักข้ามดวงดาว, บ่วง, มัจจุราชสีน้ำผึ้ง รวมถึงเป็นผู้กำกับละครพีเรียดโคตรฮิตอย่าง บุพเพสันนิวาส อีกด้วย
พล็อตของหนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ เป็นเรื่องของพ่อกับลูกที่ไม่ค่อยถูกกัน เพราะมีปัญหาบาดหมางในอดีต คนเป็นพ่ออย่างเปรมเองก็ล้มเหลวในชีวิตมาตั้งแต่วัยหนุ่ม เคยติดคุกมาแล้วอีกต่างหาก แถมตัวเองก็ชอบตบตีทำร้ายลูก ส่วนคนเป็นลูกอย่างก๊อต ก็มีปัญหาหลายอย่าง พอพ่อติดคุก แม่ก็ชิงฆ่าตัวตายอีก แถมตัวก๊อตเองก็ถูกพ่อกีดกันความฝันที่อยากจะเป็นนักแข่งรถอีกต่างหาก แต่แล้วก็อตและพ่อก็ต้องประสบกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ซึ่งทำให้ก็อตต้องอยู่ในภาวะเหมือนคนใกล้ตาย
ซึ่งหนังก็ยึดคอนเซ็ปต์ตรงที่ว่า คนใกล้ตายที่แหละที่จะสามารถย้อนอดีตกลับไปได้ ก็อตก็เลยต้องย้อนกลับไปเจอพ่อในปี 2541 ช่วงวัยหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ก็อตเองได้ไปค้นพบเรื่องราวต่าง ๆ ที่พ่อและแม่ (ที่เขาก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน) ในวันหนุ่มสาวของเขาต้องเผชิญ และต้องพยายามที่จะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ทำให้เกิดเรื่องร้าย ๆ เหมือนที่เขาและครอบครัวกำลังจะได้เจอในอนาคต
แม้ว่าตอนแรกผมเองจะรู้สึกแปร่ง ๆ กับการจับคู่คนละขั้วของโป๊ปและเต๋อ แต่ก็ต้องยอมรับว่า คู่ดูโอ้ โป๊ป-เต๋อ คือคู่หูที่ลงตัวเหมาะเจาะ เคมีเข้ากันจริง ๆ ครับ และที่สำคัญที่สุดคือ การเล่นมุกตลกของทั้งคู่ที่ประสานกันได้อย่างพอดีมาก ๆ ด้วยความที่ตัวหนังเองขับเคลื่อนไปได้ด้วยมุกตลกแบบซิทคอม และธรรมชาติของทั้งคู่เอง แม้ว่าทางตลกของโป๊ปคือทางตลกมุกล็อก เน้นจังหวะโบ๊ะบ๊ะ ส่วนเต๋อคือตลกสายอิมโพรไวส์ แต่มุกตลกของทั้งคู่ก็ดูแล้วได้ฮาเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าจะแอบมีมุกแป้กบ้างก็ตาม
ส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือแซมมี่ ที่กระโดดมารับงานภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แม้ว่าจะไม่ได้ถึงขั้นโดดเด่น แต่ก็ต้องยอมรับว่า ความน่ารักสไตล์ลูกครึ่งของแซมมี่นั้น “ทำงาน” ในจอใหญ่ได้ดีไม่แพ้ในจอทีวีเลยนะครับ ความน่ารักสดใสของแซมมี่เหมือนเป็นน้ำตาลเคลือบให้หนังเรื่องนี้น่าดูขึ้นมาเลยแหละ