
นำเค้าโครงจาก ‘เรื่องจริง’ ของตัวเองสมัยเพิ่งเรียนจบมาเป็นแรงบันดาลใจ โดยคอฟฟ์แมนเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ต้นกำเนิดของ Friends มาจากช่วงเวลาที่เพื่อนเปรียบเสมือนส่วนหนึ่งของครอบครัวคุณ”
ประเด็นดังกล่าวโดนใจผู้บริหารช่อง NBC เป็นอย่างมาก เพราะพวกเขากำลังมองหาซีรีส์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ ‘เพื่อนที่กลายมาเป็นครอบครัว’ อยู่พอดี ทั้งคอฟฟ์แมนและเครนจึงเริ่มพัฒนาพล็อตต้นแบบจากเรื่องง่ายๆ เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของกลุ่มเพื่อน 6 คน ที่อาศัยอยู่ร่วมกันภายในอพาร์ตเมนต์สีม่วงของนิวยอร์ก
มองเผินๆ อาจเป็นพล็อตที่ดูแสนจะธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้ Friends พิชิตใจผู้ชมได้ ก็คือมิตรภาพและความสัมพันธ์ของเพื่อนกลุ่มนี้ที่ค่อยๆ เติบโตไปในแต่ละซีซั่น ผ่านการเขียนบทที่ลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็มีทั้งมุกตลกโบ๊ะบ๊ะที่ทำให้เราขำท้องแข็ง และฉากซึ้งๆ ที่สามารถเรียกน้ำตาจากเราได้ด้วย
คงต้องยกเครดิตให้กับทีมเขียนบทที่ช่วยสร้างสรรค์เรื่องราวการใช้ชีวิตของคนกลุ่มนี้ให้ออกมาสมจริงและกินใจเข้ากับยุคสมัย เนื่องจากคนเมืองส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา หรือกระทั่งการต้องแชร์ห้องร่วมกับคนอื่นไม่ต่างจากบรรดาตัวละครเหล่านี้ เหมือนกับที่ แมตต์ เลอบลังก์ ผู้รับบท โจอี้ บอกว่า “เราทุกคนต่างเคยมีความสัมพันธ์แบบนี้ในชีวิตจริงกันมาทั้งนั้น” นั่นแหละ
ฉะนั้น ภาพมิตรภาพอันเหนียวแน่นของเพื่อนกลุ่มนี้ จึงกลายเป็นภาพในอุดมคติที่ใครหลายคนโหยหา เพราะไม่ว่าจะผ่านเรื่องราวผิดหวัง เจ็บช้ำ หรือทะเลาะเบาะแว้งอะไรกันมาก็ตาม พวกเขาก็ยังคงพยายามทำความเข้าใจ ให้อภัย และรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ได้เสมอ